SET จะขึ้นต่อไหม

เมื่อสิ้นเดือนตุลาคม 2563 ดัชนี SET ปิดที่ 1,194.95 จุด นับเป็นวันที่ SET เคลื่อนไหวต่ำสุดของเดือนแถมปิดใต้ 1,200 จุด ซึ่งเป็นแนวรับแนวต้านที่สำคัญ ถือเป็นสัญญาณขาลงในทางเทคนิคอย่างเต็มตัว แต่เมื่อเข้ามาในเดือนพฤศจิกายน SET พลิกตัวกลับดีดแรงมาประมาณ 65 จุด ในสัปดาห์แรกปิดที่ 1,260.08 จุด

SET

และสัปดาห์ที่สองขึ้นต่อไปอีกประมาณ 86 จุด มาปิดที่ 1,346.47 จุด ต้องบอกเลยว่านี้ไม่ใช้เหตุการณ์ปกติสำหรับหุ้นที่อยู่ในขาลง ที่อยู่ๆหุ้นจะพลิกกับแล้วบวกขึ้นมาที่เดียว 150 จุดใน 2 สัปดาห์ พอเราเข้ามาดูการซื้อขายในแต่ละวันพบว่ามี 3 ที่ SET บวกแรงและมีมูลค่าซื้อขายหนาแน่ ได้แก่

วันที่ 5 พ.ย. SET บวก 41.88 จุด ปิดที่ 1,264.32 จุด ปริมาณซื้อขาย 80,915 ล้านบาท

วันที่ 9 พ.ย. SET บวก 25.80 จุด ปิดที่ 1,285.88 จุด ปริมาณซื้อขาย 77,886 ล้านบาท

วันที่ 10 พ.ย. SET บวก 55.36 จุด ปิดที่ 1,341.24 จุด ปริมาณซื้อขาย 166,915 ล้านบาท

vol10112020

จะเห็นว่าแค่ 3 วันนี้ก็ทำให้ดัชนีบวกไปประมาณ 120 จุดแล้ว มีเรื่องอะไรที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดขึ้นได้แบบนี้ ขอเริ่มตั้งแต่

วันที่ 5 พ.ย. การเลือกตั้งของสหรัฐไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์ ซึ่งตลาดหุ้นคาดให้ไบเดนชนะ

วันที่ 9 พ.ย. ไบเดนได้คะแนนเกินกว่า 270 ที่นั่งชนะการเลือกตั้ง

วันที่ 10 พ.ย. ประกาศของบริษัทไฟเซอร์สามารถคิดค้นวัคซีนโควิดเสร็จ 90%

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทั้งหมดแล้ว เราจะพบว่าวันที่ 10 พ.ย.63 เป็นวันที่ดัชนีบวกแรงสุด มูลค่าซื้อขายสูงสุด(สูงสุดในรอบปีเลยก็ว่าได้) หลายคนคงถามว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ยังคิดค้นไม่ได้สำเร็จเลย แล้วกว่าจะนำมาฉีดให้คนทั้งโลกอีก ทำไมถึงดีใจขนาดนี้ ต้องขออธิบายแบบนี้ครับ ในตลาดหุ้นที่เราซื้อขายอยู่มีนักลงทุนหลายกลุ่มและมีการทำธุรกรรมหลายประเภท ถ้าดูจากการขึ้นของดัชนี ปริมาณซื้อขาย และประเภทของนักลงทุนแล้ว ผมขอเดาว่าน่าจะเป็นการซื้อหุ้นคืนจากการขอยืมหุ้นมาขายก่อนหน้าของนักลงทุนต่างชาติ

setVSbank

เมื่อเราทราบเหตุผลของการขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้ว เราคิดว่าจะมีข่าวดีอะไรอีกที่จะทำให้หุ้นขึ้นได้รวดเร็วแบบนี้ ส่วนตัวผมยังไม่เห็นว่าจะมีข่าวดีอะไรมากกว่านี้อีก ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีจากต่างประเทศหรือในประเทศ จริงๆผมกลัวว่าจะมีข่าวร้ายเข้ามากระทบตลาดมากกว่า อีกประเด็นที่อยากให้สังเกตทุกครั้งที่เกิดวิกฤตกับตลาดหุ้น กลุ่มแรกที่จะโดนผลกระทบก่อนเลย คือกกลุ่มธนาคาร

setVSbank

แล้วที่ขึ้นมา 2 สัปดาห์ระหว่างดัชนี SET กับ หุ้นกลุ่มธนาคาร จากภาพเห็น SET ดีดกลับขึ้นมาแรงกว่ากลุ่มธนาคารมาก โดยเมื่อเทียบ 1 ปีย้อนหลัง ณ วันนี้ SET ติดลบ 16% แต่หุ้นกลุ่มธนาคารติดลบอยู่ 35% (ที่เทียบกับกลุ่มธนาคารไม่ได้จะเชียร์ให้ซื้อนะครับ แค่อยากให้ดูว่าเศรษฐกิจจะดีแล้วหุ้นกลุ่มธนาคารควรขึ้นนำดัชนี SET ไปแล้ว) และตอนนี้ค่า PE ของ SET อยู่ที่ประมาณ 26 เท่า ผมมองว่าถ้าจะให้ SET ขึ้นไปต่อเหมือน 2 สัปดาห์ก่อนอีกร้อยกว่าจุดไม่น่าใช่เรื่องง่าย ฉะนั้นช่วงนี้ขอแนะนำให้เก็บเงินสดไว้ก่อน 50-70% ของ Port หรือนักลงทุนที่ติดหุ้นที่ราคาสูงๆควรใช้จังหวะนี้ปรับ Port ใหม่  แต่ถ้าอยากเล่นรอบแนะนำไม่ควรเกิน 10% ของ Port  การลงทุนมีควรเสี่ยงนักลงทุนต้องใช้สติและวางแผนก่อนการลงทุน

 

Invisible hand

error: Content is protected !!