การปรับฐานราคาของ Bitcoin และก็ Altcoins ครั้งใหม่ของตลาดยังคงเดินต่อไปท่ามกลางการเทขายสินค้าเจ้ามือขนาดใหญ่บางรายเพื่อกลับมาครอบครอง stablecoin แต่ว่าดูเหมือนจะมีเจ้ามือบางรายที่มองเห็นต่างและไม่กลัวการหล่นของ Shiba Inu (SHIB) ที่ราคาลดน้อยลงจากระดับสูงสุดกว่า 50% แต่กัน พวกเขายังคงกำลังเข้าซื้อด้วยราคากว่า 36 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเจ้ามือ SHIB รายหนึ่งได้ลดการครองลง 4% จากปริมาณที่ถือสิทธิ์ทั้งผองและก็ตกลงใจครอง stablecoin อย่าง Tether (USDT) เพิ่มมากขึ้น แต่ว่าแม้กระนั้นกลับมีเจ้ามือ SHIB บางรายมองเห็นต่างแล้วก็ปัดกวาดซื้อโทเคนในตลาดไปๆมาๆกกว่า 8.5 แสนล้านโทเคนด้วยเงินราว 36 ล้านดอลลาร์ ดังนี้ความประพฤติดังที่กล่าวถึงมาแล้วยังคงไม่มีผลต่อตลาดเท่าไรนักเนื่องด้วยราคาเหรียญต่ำลงกว่า 1.2% ใน 1 วันก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
ก่อนหน้าที่ผ่านมา Shiba Inu สามารถพุ่งขึ้นได้ถึง 23% ต่อวันแต่ว่าต่อไปไม่นานก็ลดน้อยลงอย่างเร็วภายในช่วงระยะเวลาเพียงแต่ไม่กี่วันและก็สูญเสียราคาไปๆมาๆกกว่า 50% โดยเมื่อเทียบกับเชื้อสายเหรียญสุนัขมีมอื่นๆอย่าง Floki ก็ประสบเจอกับปัญหาด้วยเหมือนกันโดยสูญเสียค่าไปๆมาๆกกว่า 59% รวมทั้งเหรียญมีมขวัญใจ Elon Musk อย่าง Dogecoin ก็สูญเสียราคาไปๆมาๆกกว่า 35% แม้ตั้งแต่แมื่อระดับสูงสุดปัจจุบัน
แต่ในตอนนี้ Shiba Inu ยังคงระดับราคาการค้าขายอยู่ที่ 0.000043 ดอลลาร์ ซึ่งยังคงต่ำลงอย่างสม่ำเสมอถึงแม้ว่าช่วงวันที่ 19 พ.ย.ก่อนหน้าที่ผ่านมาจะสามารถพุ่งขึ้นได้มากกว่า 20% ก็ตาม
Elon Musk ร้องให้ผู้ถือเหรียญ Dogecoin
ไม่นานภายหลังที่ได้ไปมีหลักสำคัญ กับ Changpeng Zhao CEO ของ Binance นาย Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ก็เริ่มมุ่งเป้าจู่โจมไปที่บอร์ดเปลี่ยนคริปโตแบบรวมศูนย์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในทวีตปัจจุบัน Elon Musk กล่าวเห็นด้วยกับการถอนเงิน ออกมาจากแพลตฟอร์มบอร์ดแลกคริปโตแบบรวมศูนย์ เพื่อช่วยทำให้ผู้ถือเหรียญ Dogecoin นั้นสามารถควบคุม เงินของพวกเขาได้ด้วยตัวเอง
ไม่ใช่ทีแรกที่ Elon Musk ได้ออกมากล่าวเกื้อหนุนแนวความคิด “not your keys, not your crypto” โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาในก.พ.เขากล่าวบนทวีตว่า กระเป๋าเงิน cryptocurrency อะไรก็แล้วแต่ที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมรายได้ด้วยตัวเอง ผู้ใช้ก็ไม่สมควร “ใช้งานในทุกกรณี”
ย้อนกลับไปตอนนั้น Musk ยังได้โพสต์รายงานของ Chuck Norris ที่กล่าวถึงเรื่องของ Mt. Gox บอร์ดแลกคริปยกที่ได้ปิดตัวลง ข้างหลังสูญเสีย Bitcoin ไปเป็นปริมาณกว่า 850,000 BTC สำหรับเพื่อการแฮ็กครั้งใหญ่เมื่อปี 2014
ธรรมดาแล้วผู้ถือเหรียญ Crypto ชอบไม่เสนอแนะให้คนไหนกันแน่ถือเหรียญ cryptoไว้ ในบอร์ดเปลี่ยนรวมศูนย์ เหตุเพราะเว็บไซต์เทรดกลุ่มนี้ได้โอกาสถูกแฮ็กหรือมีเรื่องราวที่ไม่คาดคิดอื่นๆเกิดขึ้นได้เสมอ อย่างไรก็แล้วแต่ยังมีคนที่มั่นใจว่านักลงทุนมือใหม่ไม่เหมาะที่จะดูแลเหรียญ crypto ด้วยตัวเอง เนื่องมาจากวิธีการพวกนี้ยุ่งยากเหลือเกินแล้วก็บางทีอาจมีผลทำให้พวกเขาสูญเสียเงินลงทุนไปทั้งหมด
