สถานการณ์ฮ่องกง

เป็นเวลาเกือบ 6 เดือนแล้ว ที่การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงยังดำเนินไปด้วยความรุนแรง เช้าวันที่ 18 พ.ย.ตำรวจฮ่องกงได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่ผู้ชุมนุมที่พยายามจะออกมาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง โพลีเทคนิค ในย่านเกาลูน ผู้ชุมนุมจำนวนมากต้องถอยร่นกลับเข้าไปในมหาวิทยาลัย และตอบโต้เจ้าหน้าที่ด้วยการขว้างอิฐและระเบิดขวด

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างสถานีวิทยุและโทรทัศน์ RTHK ของฮ่องกง ว่ามีการจับกุมผู้ชุมนุมกว่า 60 คน ใกล้กับมหาวิทยาลัยฮ่องกง โพลีเทคนิค มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ถือเป็น 1 ใน 5 ฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นฐานเพื่อปิดกั้นช่องทาง การสัญจรผ่านอุโมงค์ข้ามอ่าววิคตอเรีย ทั้งนี้ เนื้อหาของบทบรรณาธิการระบุด้วยว่า รัฐบาลปักกิ่งไม่ลังเลที่จะ “บดขยี้” ความพยายามใดก็ตามซึ่งท้าทายอำนาจอธิปไตย ความมั่นคงและเอกภาพของจีน และ “การแทรกแซง” เป็นได้เพียงจินตนาการที่ไม่มีทางประสบความสำเร็จ เนื่องจากแผ่นดินใหญ่มีความมุ่งมั่นต่อการพิทักษ์รักษาหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ ให้คงอยู่ต่อไป และทิ้งท้ายด้วยคำกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งพูดนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ “บริคส์” ที่กรุงบราซิเลีย เมืองหลวงของบราซิล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าการประท้วงรุนแรงในฮ่องกงที่เป็นฝีมือของ “กลุ่มอาชญากรป่าเถื่อน” นั้น ถือเป็น “เจตนาท้าทายอย่างร้ายแรง” ต่อพื้นฐานของหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ และสถานการณ์รุนแรงและความวุ่นวายในฮ่องกง “ต้องยุติโดยเร็วที่สุด” เมื่อวันอาทิตย์ เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงและเจ้าหน้าที่ตำรวจรอบ ๆ มหาวิทยาลัยที่นักศึกษายึดเป็นฐานที่มั่น หลังจากตลอดค่ำคืนที่ผ่านมายังคงมีการปะทะกันรุนแรงหลายครั้ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามอย่างหนักในการผลักดันให้กลุ่มผู้ประท้วงออกไปพื้นที่

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาของวันเสาร์ 16 พ.ย.ยังคงมีกองไฟขนาดใหญ่หลายจุดพบเห็นภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง โพลีเทคนิค ในย่านเกาลูน หลังจากผู้ชุมนุมขว้างปาระเบิดขวด และยิงหนังสติ๊ก ตอบโต้ ขณะที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเพื่อผลักดันให้พวกเขาถ่อยร่นออกไป อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะสงบเพียงไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากผู้ชุมนุมบางส่วนพักผ่อนนอนหลับภายในสนามหญ้าและในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยดังกล่าว แต่เมื่อเวลาราว 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 9.00 น.ตามเวลาในไทยกลับเกิดการปะทะกันอีกครั้ง โดยผู้ชุมนุมได้ขว้างระเบิดขวดตอบโต้ จึงทำให้ต้นไม้ด้านนอกเขตมหาวิทยาลัยเกิดไฟลุกไหม้ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนปรากฏตัวครั้งแรก ขณะที่เมื่อวานนี้ ถือเป็นครั้งแรกของการปรากฏตัวของกองทัพปลดปล่อยประชาชนบนถนนในฮ่องกง ที่เข้ามาช่วยปัดกวาดทำความสะอาดถนน ซึ่งภาพดังกล่าวได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทางการจีนอาจจะใช้กองกำลังดังกล่าวเข้ามาปฏิบัติการกระชับพื้นที่หรือไม่ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า สมาชิกสภาฮ่องกงฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ประณาม ปฏิบัติการดังกล่าวของกองทัพปลดปล่อยประชาชน โดยเตือนว่า ภายใต้ กฎหมายกองกำลังรักษาการณ์ (Garrison Law) กองทัพจะต้องไม่แทรกแซงกิจการภายในฮ่องกง หากว่ารัฐบาลฮ่องกงไม่ได้ร้องขอ เพื่อช่วยเหลือในแง่การบรรเทาสาธารณภัย หรือ เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ว่าบทบรรณาธิการของ “พีเพิลส์ เดลี” หนึ่งในหนังสือพิมพ์กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน  มีสาระสำคัญว่าอนาคตของฮ่องกงมาถึง “จุดวิกฤติ” และ “ไม่มีพื้นที่” สำหรับการประนีประนอมให้กับ “ความกระเสือกกระสน” ของฝ่ายประท้วงต่อต้านคณะผู้บริหาร สถานการณ์ประท้วงในฮ่องกงตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องตัดสินแล้วว่า “จะปกป้องหรือทำลาย” หลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ ที่เป็นพื้นฐานการปกครองของฮ่องกงตั้งแต่ปี 2540 และเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของแผ่นดินใหญ่ด้วย บทบรรณาธิการดังกล่าวของพีเพิลส์ เดลี เผยแพร่ออนไลน์ก่อนเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ในวันต่อมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ตำรวจปราบจลาจลของฮ่องกงปฏิบัติการจู่โจม “ฐานที่มั่น” ของผู้ประท้วงชุดดำ ภายในมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค ( โพลียู ) บนฝั่งเกาลูน เพื่อกระชับพื้นที่สถานศึกษา และเพื่อยึดคืนอุโมงค์ทางลอดเชื่อมระหว่างฝั่งเกาลูนกับฝั่งฮ่องกง ที่ตำรวจต้องการยึดคืนเพื่อเปิดการจราจร.

error: Content is protected !!