นักลงทุนสูญเสียเงินกว่า 3.3 พันล้านบาท หลังจากรัฐบาลจีนสั่งแบน bitcoin อีกรอบ

ตลาด bitcoin ในตอนนี้ค่อนข้าง มีความผันผวนอย่างน่าฉงนสงสัยไม่น้อย เลยก็ว่าได้ เนื่องจากทางรัฐบาลจีนได้ทำการสั่งแบน สกุลเงิน ดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่มีความเข้มงวดเป็นอย่างมาก กับการจัดการในจุดเหล่านี้ หรือในส่วนเหล่านี้นั่นเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธบัตรของ “Coinbase”  ได้น้อยลงอย่างเป็นจริงเป็นจังภายหลังจากข่าวสารการแบนธุรกรรมจากแบงค์ของจีนที่ผ่านมา โดยรัฐบาลจีนบล็อกธุรกรรม crypto ทั้งสิ้นรวมทั้งได้นำหลักการใหม่ที่วางแบบมาเพื่อหยุดเหมืองขุดและก็วิธีการทำธุรกรรม crypto ที่ไม่ถูกกฎหมาย

“การสูญเสียเงินของนักลงทุนในเวลาตอนนี้อยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์ และก็พันธบัตรอายุ 10 ปีขาดทุนอยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์โดยลงมากกว่า 1.5 จุดในเลวทรามข้ามคืน และก็พันธบัตร 7 ปีที่มีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สูญเสียไปกว่า 3.375%”

โดยที่ พันธบัตรของ Coinbase ได้ราคาแพงที่ลดน้อยลงอย่างยิ่งในวันที่ 14 ก.ย. ภายหลังความหวาดกลัวที่เกิดจากการผิดนัดของ Evergrande ซึ่งมีผลเสียต่อตลาดโลกรวมทั้งส่งผลให้เกิดวิกฤติด้านการเงินครั้งใหม่

อาจเกิดการฟ้องร้อง..

สิ่งนี้เกิดขึ้นภายหลังการร้องทุกข์ที่เกิดขึ้นมาจากที่ทำการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกาและก็ความไม่ประสบผลสำเร็จจากการเปิดตัวแพลตฟอร์มการกู้ยืม crypto ตัวใหม่ 

อย่างไรก็แล้วแต่ มีการรายงานข่าวของ Bloomberg ได้ถูกกล่าวมาว่าเป็นการรายงานข่าวสารเลียนแบบก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในกรุ๊ปนักลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี่จำนวนมาก ทำให้ราคา Bitcoin ลดน้อยลงไปกว่า 2,000 ดอลลาร์ภายในช่วงระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้เหรียญ Altcoin ปรับฐานกันไม่น้อยเลยทีเดียว

สถานการณ์ในจีนยังไม่คงที่

สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ Bitcoin แนวรับ และตกลงที่ราคา 40,000 ดอลลาร์จากตลาดล่มในวันที่ 22 ก.ย. 64 ก่อนหน้าที่ผ่านมา เพราะการแสดงจุดยืนโดยตลอดของ cryptocurrency ในประเทศจีนที่สะท้อนให้มองเห็นถึงความมั่นคงรวมทั้งมั่นคงในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี่ตลอด 4 ปีที่ล่วงเลยไป 

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เรื่องดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นมีขึ้นในกันยายน 2017 การประกาศห้ามแบงค์เกื้อหนุน Bitcoin ทำให้ราคาหล่นลงสู่ระดับเดิมข้างในไม่กี่อาทิตย์แล้วก็สร้างระดับสูงสุดใหม่ตลอดไปที่ 20,000 ดอลลาร์ในเวลาไม่ถึงสามเดือนถัดมา

**ข้อเท็จจริงมิได้หายไปจากผู้เข้าร่วมตลาดมาเป็นระยะเวลานาน รวมทั้งคนที่อยู่ในเครือข่ายสังคม ซึ่งในตอนแรกข่าวสารของจีนได้ปรากฏขึ้นอีกรอบและก็จุดประกายให้กำเนิดความตื่นตระหนก

error: Content is protected !!