ทรัมป์ลงนามร่างกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 417 ต่อ 1 เสียง ผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ก่อนที่จะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมาย “Hong Kong Human Rights and Democracy Act”

โดยกฎหมายดังกล่าวจะคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบในการทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐานและการปกครองตนเองในฮ่องกง นอกจากนี้ ร่างกฎหมายจะกำหนดให้มีการทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับฮ่องกง ภายใต้กฎหมายของสหรัฐ โดยการทบทวนดังกล่าวจะพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า ฮ่องกงได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอจากจีนหรือไม่ นอกจากนี้ ร่างกฎหมายจะกำหนดให้มีการทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับฮ่องกง ภายใต้กฎหมายของสหรัฐ โดยการทบทวนดังกล่าวจะพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า ฮ่องกงได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอจากจีนหรือไม่ อย่างไรก็ดี ในระหว่างการลงนามบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ปธน.ทรัมป์ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเนื้อหาบางส่วนที่ไม่มีการระบุอย่างเจาะจงในกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเข้าข่ายการแทรกแซงสิทธิอำนาจของประธานาธิบดีในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ “ผมลงนามกฎหมายเหล่านี้ด้วยความเคารพต่อท่านประธานาธิบดีสี และประชาชนชาวฮ่องกง ผมหวังว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวจะทำให้บรรดาผู้นำและเจ้าหน้าที่จีนและฮ่องกงสามารถยุติความขัดแย้งต่างๆ อันจะนำไปสู่สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของทุกฝ่าย” ปธน.ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์

กระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศในวันนี้ว่า จีนไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาดที่สหรัฐลงนามร่างกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า “เราขอให้สหรัฐหยุดกระทำการโดยพลการ มิเช่นนั้นจีนจะดำเนินการตอบโต้ ซึ่งสหรัฐจะต้องรับผลจากการกระทำของตัวเอง”นอกจากนี้ จีนยังได้เน้นย้ำอีกด้วยว่า ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีนตามนโยบาย 1 ประเทศ 2 ระบบ และเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นในฮ่องกงถือเป็นเรื่องภายในประเทศ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมาย “Hong Kong Human Rights and Democracy Act” โดยกฎหมายดังกล่าวจะคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบในการทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐานและการปกครองตนเองในฮ่องกง นอกจากนี้ ร่างกฎหมายจะกำหนดให้มีการทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับฮ่องกง ภายใต้กฎหมายของสหรัฐ โดยการทบทวนดังกล่าวจะพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า ฮ่องกงได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอจากจีนหรือไม่

error: Content is protected !!